หากคุณหรือคนในครอบครัวเริ่มมีอาการจามบ่อยๆ คันคอ หรือไอเรื้อรังทุกครั้งที่ก้าวขึ้นรถ หรือหลังจากเปิดแอร์ไปสักพัก คุณอาจกำลังมองหาสาเหตุจากอาการป่วยทั่วไป แต่แท้จริงแล้ว ต้นตอของปัญหาสุขภาพเหล่านี้อาจซ่อนอยู่ในระบบปรับอากาศของรถคุณเอง และสัญญาณเหล่านี้กำลังบอกว่าถึงเวลาที่คุณต้อง “ล้างแอร์รถยนต์” อย่างเร่งด่วน!
ทำไมแอร์รถยนต์ ถึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค
ระบบปรับอากาศในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง จะกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะบริเวณ คอยล์เย็น (ตู้แอร์) ซึ่งเป็นส่วนที่รับหน้าที่ในการทำความเย็น
เมื่ออากาศร้อนชื้นจากภายนอกถูกดึงเข้ามาในระบบ จะเกิดการควบแน่นเป็นหยดน้ำบนแผงคอยล์เย็น ความชื้นเหล่านี้จะจับตัวกับ:
- ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก: ที่เล็ดลอดเข้ามาตามช่องต่างๆ หรือผ่านไส้กรองแอร์ที่เสื่อมสภาพ
- เศษสิ่งมีชีวิตเล็กๆ: เช่น ซากแมลง เส้นผม หรือแม้แต่เซลล์ผิวหนังของคน
- สปอร์ของเชื้อราและแบคทีเรีย: ที่ลอยอยู่ในอากาศ
เมื่อสิ่งเหล่านี้รวมตัวกันในสภาพแวดล้อมที่มืด อับชื้น และอบอุ่นภายในตู้แอร์ มันจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ขนาดใหญ่ของ เชื้อรา แบคทีเรีย และไรฝุ่น เมื่อคุณเปิดแอร์ ลมที่ถูกเป่าออกมาก็จะพัดพาเอาสปอร์เชื้อโรค และสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ให้ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องโดยสาร ทำให้คุณและผู้โดยสารสูดดมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
ผลกระทบต่อสุขภาพเมื่อคุณไม่ ล้างแอร์รถยนต์
การสูดดมเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้จาก “แอร์รถยนต์” ที่สกปรกเป็นเวลานาน สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้หลายประการ ดังนี้:
- อาการภูมิแพ้กำเริบ: สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการจะรุนแรงขึ้น เช่น จามบ่อย น้ำมูกไหล คัดจมูก คันตา คันจมูก หรือมีผื่นขึ้น
- โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ: การได้รับเชื้อราและแบคทีเรียอย่างต่อเนื่องอาจนำไปสู่โรคทางเดินหายใจต่างๆ เช่น หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ หรือแม้กระทั่งโรคปอดบางชนิด
- กลิ่นอับและไม่พึงประสงค์: นอกจากอาการทางกายแล้ว กลิ่นเหม็นอับจากแอร์ที่สกปรกยังสร้างความรำคาญ ทำให้การเดินทางไม่สบายตัว และอาจส่งผลต่อสมาธิในการขับขี่ได้
- ระคายเคืองดวงตาและผิวหนัง: สปอร์ของเชื้อราและแบคทีเรียที่ปะปนในอากาศสามารถทำให้เกิดอาการแสบตา ตาแดง หรือแม้กระทั่งผื่นคันตามผิวหนังได้
ถึงเวลา ล้าางแอร์รถยนต์ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
หากคุณกำลังประสบปัญหาอาการจาม ไอ หรือมีกลิ่นอับชื้นในรถยนต์ การ “ล้างแอร์รถยนต์” คือทางออกที่จำเป็นและคุ้มค่าที่สุด การล้างแอร์อย่างถูกวิธีโดยช่างผู้เชี่ยวชาญจะช่วย:
- กำจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้: ทำความสะอาดคอยล์เย็นและช่องทางเดินลม เพื่อขจัดเชื้อรา แบคทีเรีย ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่
- คืนความสดชื่นไร้กลิ่นอับ: เมื่อสิ่งสกปรกและเชื้อโรคหมดไป กลิ่นเหม็นอับก็จะหายไป ทำให้ภายในรถมีอากาศที่สะอาดและสดชื่น
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น: เมื่อตู้แอร์สะอาด การถ่ายเทความร้อนจะดีขึ้น แอร์จะกลับมาเย็นฉ่ำ และทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ประหยัดน้ำมัน: เมื่อแอร์ทำงานดี คอมเพรสเซอร์จะทำงานน้อยลง ส่งผลให้รถยนต์ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น
การ “ล้างแอร์รถยนต์” ควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทุกๆ 20,000 กิโลเมตร หรือทันทีที่คุณเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เช่น กลิ่นอับ หรืออาการภูมิแพ้กำเริบ เมื่อคุณเลือก “ล้างแอร์รถยนต์” กับศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน คุณจะมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในรถ และความสบายใจในการเดินทาง
อย่ารอให้ปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น การดูแล “แอร์รถยนต์” ให้สะอาดอยู่เสมอ คือการลงทุนเพื่อคุณภาพอากาศที่ดีและการใช้ชีวิตที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
StarAirSound ศูนย์บริการดูแลระบบแอร์รถนยต์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์บริการเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ซึ่งได้มาตรฐานและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องบริการ ผ่านการรับรองจาก Denso Thailand ที่เพียบพร้อมไปด้วยบริการที่เต็มไปด้วยคุณภาพ มีความเหนือชั้นอย่างมืออาชีพประกอบกับคุณภาพบริการที่ได้มาตรฐาน ใช้เวลาไม่นานในการตรวจเช็ค ซ่อมบำรุง และแก้ไขปัญหา
ติดต่อเรา StarAirSound
โทร 083-999-0967
Add Line @starairsound หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40ywh1960s
มี 3 สาขา พร้อมให้บริการ เปิด.จันทร์-เสาร์ 8.00-18.00 น
1.สาขา..ลาดพร้าว71 02-004-7950
แผนที่ สาขา..ลาดพร้าว71
https://goo.gl/maps/9YkRh2HGNM42
2.สาขา..ตลิ่งชัน(ปากซอยบรมราชชนนี46) 02-0440-168
แผนที่ สาขา ตลิ่งชัน
https://goo.gl/maps/zDrfjHjTEcDCVKMC8
3.สาขา..ศรีนครินทร์(ติดสถานนีรถไฟฟ้าศรีนุช) โทร 02-0070-168
แผนที่ สาขา..ศรีนครินทร์(ติดสถานนีรถไฟฟ้าศรีนุช
https://maps.app.goo.gl/NaFucarbwgjdnvs57?g_st=ic